มาตรฐานและข้อกำหนดของผ้ากันไฟที่ควรมี

[siritidaphon]

มาตรฐานและข้อกำหนดของผ้ากันไฟที่ควรมี

การเลือกใช้ผ้ากันไฟที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพในการป้องกันอัคคีภัย มาตรฐานและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับผ้ากันไฟมีหลายระดับ ตั้งแต่ระดับสากลไปจนถึงระดับประเทศ ซึ่งกำหนดขึ้นเพื่อรับรองว่าผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพตามที่กล่าวอ้าง

มาตรฐานสากล
ISO (International Organization for Standardization): เป็นองค์กรระหว่างประเทศที่กำหนดมาตรฐานต่างๆ รวมถึงมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของผ้ากันไฟ เช่น

ISO 6940: เป็นมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการติดไฟของผ้า

ISO 15025: เป็นมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบการลามของเปลวไฟ

มาตรฐานระดับประเทศ
NFPA (National Fire Protection Association): เป็นองค์กรของสหรัฐอเมริกาที่กำหนดมาตรฐานเกี่ยวกับการป้องกันอัคคีภัย ซึ่งมีการกำหนดมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับผ้ากันไฟที่ใช้ในงานเฉพาะด้าน เช่น

NFPA 2112: เป็นมาตรฐานสำหรับเสื้อผ้าที่ใช้ป้องกันไฟแฟลช (flash fire) ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี

EN (European Standards): เป็นมาตรฐานของสหภาพยุโรป ซึ่งมีการกำหนดมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับผ้ากันไฟที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น

EN ISO 11612: เป็นมาตรฐานสำหรับเสื้อผ้าที่ใช้ป้องกันความร้อนและเปลวไฟ

มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.): เป็นมาตรฐานของประเทศไทย ซึ่งสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เป็นผู้กำหนดมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อความปลอดภัยและคุณภาพ


ข้อกำหนดที่ควรพิจารณา

นอกเหนือจากมาตรฐานแล้ว ยังมีข้อกำหนดอื่นๆ ที่ควรพิจารณาในการเลือกใช้ผ้ากันไฟ ได้แก่

คุณสมบัติของวัสดุ: วัสดุที่ใช้ทำผ้ากันไฟควรมีคุณสมบัติทนความร้อน และต้านทานการเผาไหม้ได้ดี

โครงสร้างของผ้า: ผ้าทอหนาแน่น จะป้องกันไฟได้ดีกว่าผ้าทอหลวม

ความหนาของผ้า: ผ้าที่หนากว่าจะมีแนวโน้มป้องกันไฟได้ดีกว่า แต่ก็อาจมีน้ำหนักมาก และไม่สะดวกในการใช้งาน

การเคลือบสารกันไฟ: การเคลือบผ้าด้วยสารกันไฟ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันไฟได้

การใช้งาน: ควรเลือกผ้ากันไฟที่เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น หากใช้ทำเสื้อผ้า ควรเลือกผ้าที่สวมใส่สบาย และทนทานต่อการซัก

การเลือกใช้ผ้ากันไฟที่ได้มาตรฐาน และมีคุณสมบัติเหมาะสม จะช่วยให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพในการป้องกันอัคคีภัย และความปลอดภัยในการใช้งาน